Saturday, August 22, 2015

พ่อร้องไห้แทบขาดใจ !! เมื่อต้องเห็นการกระทำของหมอ "ทำไหมคุณหมอ ทำกับครอบครัวผมแบบนี้"

No comments :

เหตุการณ์เศร้าสะเทือนใจของครอบครัวหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ที่ต้องสูญเสียลูกแฝด 3 พร้อมๆกัน แม่ตั้งครรภ์เจ็บครรภ์คลอดแต่ด้วยครรภ์แฝดและเคยผ่าตัดคลอดมาก่อน ครรภ์นี้จึงต้องทำการผ่าตัดคลอดด้วยเช่นกัน คุณพ่อเล่าว่า รอการเตรียมความพร้อมเพื่อผ่าตัดและการตรวจร่างกายของแม่และทารกในครรภ์นานนับ2ชั่วโมง และหลังผ่าตัดพบว่าลูกทั้งสามได้เสียชีวิตแล้ว คุณพ่อผู้สูญเสีย ได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมทิ้งคำถามไว้ ข้อความทั้งหมดจากคุณพ่อมีดังต่อไปนี้ค่ะ

คุณหมอครับ พวกผมทำอะไรผิดเหรอครับ

พ่อแม่พาพวพวกผมฝากท้อง แบบฝากพิเศษเสียด้วย (ฝากดูแลพิเศษก็คือได้รับการดูแลพิเศษจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติกรรม ยิ่งกว่าธรรมดาน่ะซี) พวกผมก็ดีใจที่สุขภาพแข็งแรงทั้ง 3 พี่น้อง ) คิดว่าปลอดภัยแน่แล้ว แต่เอ.คุณหมออัลตร้าซาวด์ตอนพวกผมอยู่ในท้อง ถึง 5 ครั้ง ตลอดมา โดยครั้งสุดท้ายได้ อัลตร้าซาวด์เมื่อวันพุธที่ 5 สิงหาคม 2558 (เนื่องจากแม่อึดอัดแน่นท้องหายใจไม่ออก ทนไม่ใหวที่จะรอตามกำหนดนัดตรวจในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2558) แต่คุณหมอก็ยังยืนยันว่าพวกผมมีพี่น้องแฝดแค่ 2 คน ทั้ง ๆ ที่ท้องแม่ใหญ่มาก ..แม่ก็บอกกับหมอว่าทนไม่ใหวแล้วขอให้ผ่าเลย แต่คุณหมอท่านบอกยังผ่าไม่ได้ ปอดพวกผมยังไม่สมบูรณ์ต้องรอให้ครรภ์ครบ 35 สัปดาห์ (ประมาณวันที่ 26,27,28 สิงหาคม 2558) และแม่กลัวครรภ์มีปัญหาจึงขอแอ็ดมิดเข้านอนรอที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 ที่ตึกหลวงปู่ศุข เพื่อรอตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติกรรม และได้รับการฉีดยากระตุ้นปอดพวกผมในวันพฤหัส และวันศุกร์ (เนื่องจากต้องนอนรออีกนานกว่าจะถึง



กำหนดตามหมอกำหนดในวันที่ 26-28 สิงหาคม 2558 ) ในการนี้คุณหมอที่ฝากพิเศษท่านทราบดีครับว่าแม่ได้รับการผ่าตัดคลอดลูกมาแล้ว 2 ครั้ง เนื่องจากฝากพิเศษกับท่านมาตลอดทั้ง 2 ครั้ง ครั้งนี้น่าจะมีการประเมินความความเสี่ยงอย่างสูง เนื่องจากเป็นครรภ์ที่ 3 และแฝดด้วย และครรภ์ก็มีขนาดใหญ่มาก แม่เดินไม่ค่อยไหว ขณะนี้พวกผมมีอายุครรภ์ 32 สัปดาห์เศษ ( 8 เดือนเศษแล้วครับ) และแล้วในวันที่ 9 สิงหาคม 2558 เวลา 01.00 น พวกผมแข็งแรงสมบูรณ์ทุกคนจึงพากันดิ้นจนมดลูกของแม่ฉีกขาด ที่มดลูกแม่ตรงรอยแผลเดิม แม่ทนไม่ไหวจึงได้ให้พ่อรีบแจ้งพยาบาลตึก และแจ้งว่าทนไม่ใหวแล้วแน่นหายใจไม่ออก ท้องแข็ง มีเจ็บเสียวที่ใต้สะดือและแม่บอกทนไม่ใหวแล้วขอให้ผ่าเลย ผ่าเลย แต่ด้วยระเบียบปฏิบัติในกรรมวิธีการคลอดของโรงพยาบาล ทำให้แม่ต้องได้รับการเข็นกลับไผยังห้องคลอด เพื่อตรวจปากมดลูก ตรวจคลื่นหัวใจ วัดขนาดท้อง และเตรียมความพร้อมให้แพทย์ และรายงานแพทย์เพื่อเซ็ทห้องผ่าตัดตามระเบียบ พวกผมอยู่กับคุณพยาบาลในห้องคลอดนานมาก(นับจาก 01.00 น.กว่าจะถึงหน้าห้องผ่าตัดก็เวลา 02.39 น แล้วและได้ผ่าประมาณ 02.51 น.) จนพวกผมทนไม่ไหว เลือดออกในมดลูกมากและรกพวกผมหลุดลอยในท้องขาดเลือด ขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตทั้งหมด 3 คนพี่น้อง จึงอยากทราบว่า
1. ณ ขณะที่มีเหตุฉุกเฉินอย่างยิ่งต่อชีวิต นั้น ทำใมโรงพยาบาลจึงต้องย้อนกลับไปเตรียมวัดช่องคลอด วัดท้อง ทำใม หรือต้องการให้คลอดเอง มันงงจริง ๆ
2.การที่คนท้องได้ฝากพิเศษ ต่อแพทย์มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ ด้านสูติกรรม อัลตร้าซาวด์ถึง 5 ครั้ง พบเพียง 2 คน ซึ่งจริงๆ มี 3 คน และไม่ได้ประเมินความเสี่ยงของคนไข้เลยไช่ไม๊ ประเมินขนาดท้องที่ขนาดใหญ่มาก อาจเกิดเหตุได้
3.การที่คนท้องต้องอยู่ในห้องคลอด โดยใช้เวลานานมากในขณะที่มีเหตุฉุกเฉินต่อชีวิต(ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง) ทำไปเพื่ออะไร


ใครรู้ช่วยตอบพวกผม 3 คนที่ จะไดไปสู่สุคติโดยสงบ ขอบคุณครับ

การตั้งครรภ์นับเป็นข่าวดีของครอบครัว พ่อแม่ทุกคนต่างตั้งตาเฝ้ารอวันที่ลูกลืมตาดูโลกนานนับ 9 เดือน หลายคนที่คลอดก่อนกำหนด หลายคนครบกำหนดแล้วยังไม่คลอด และเด็กๆหลายคนยังไม่ทันได้เจอหน้าพ่อแม่ก็ต้องด่วนจากไปเสียแล้ว … ดังเช่นน้องแฝดทั้งสามชีวิต ความผิดพลาด หรือ ความเสี่ยงทางสูติกรรมที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตบางครั้งยากที่จะป้องกัน การสูญเสียบางครั้งเกิดจากเหตุสุดวิสัยทางการแพทย์ที่ไม่สามารถป้องกันได้ การไปฝากครรภ์ตามนัดและหมั่นสังเกตอาการผิดปกติเป็นเรื่องที่แม่ตั้งครรภ์ควรใส่ใจ แต่การใส่ใจเพียงฝ่ายเดียวของแม่ตั้งครรภ์นั้นไม่ได้หมายถึงลูกรักของเราจะปลอดภัยเสมอไป ทั้งนี้ ทีมแพทย์พยาบาลผู้เกี่ยวข้อง ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดของแม่ตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน Mama Expert ขอเเสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ด้วยค่ะ
http://www.bigza.com/news-177387

No comments :

Post a Comment